Health

  • เหงื่อออก บ่งบอกสุขภาพได้
    เหงื่อออก บ่งบอกสุขภาพได้

    เหงื่อออก บ่งบอกสุขภาพได้

    เหงื่อออก เป็นเรื่องปกติที่ต้องพบเจอทุกวัน ยิ่งอาศัยอยู่ในประเทศเขตร้อนอย่างบ้านเราไปจนถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ทำในแต่ละวัน จะกระตุ้นให้ออกมากน้อยแตกต่างกันออกไป แต่เหงื่อในลักษณะไหนที่ส่งสัญญาณบอกให้ควรหันมาใส่ใจกับสุขภาพ

    เรื่องน่ารู้ของอาการเหงื่อออกเยอะ

    เหงื่อออก เป็นของเสียรูปแบบหนึ่งที่ถูกขับจากต่อมเหงื่อออกมาทางผิวหนัง เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายลง โดยมีส่วนประกอบสำคัญเป็นน้ำและเกลือ มักจะออกตามใบหน้า รักแร้ ฝ่ามือและฝ่าเท้าเป็นหลัก ส่วนสาเหตุที่ทำให้เหงื่อออกมาจากหลายปัจจัย ได้แก่

    • อุณหภูมิภายในหรือภายนอกร่างกายสูงขึ้น ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เหงื่อออก
    • สภาวะทางอารมณ์ก็มีส่วนกระตุ้นให้เหงื่อออก เช่น โกรธ กลัว เครียด วิตกกังวล หรืออึดอัดใจ
    • การรับประทานอาหารบางประเภท เช่น อาหารเผ็ดร้อน เครื่องดื่มคาเฟอีน ชา กาแฟ โซดา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งกระตุ้นให้เหงื่อออกในขณะรับประทานอาหาร
    • อาการป่วยทางร่างกาย เช่น โรคมะเร็ง ไข้ขึ้น อาการติดเชื้อ น้ำตาลในเลือดต่ำ กลุ่มอาการเจ็บปวดเฉพาะที่อย่างซับซ้อนบริเวณแขนขาหรือกลุ่มอาการซีอาร์พีเอส (Complex Regional Pain Syndrome)
    • การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวดหรือมอร์ฟีน ยาบำบัดภาวะร่างกายพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน (Synthetic Thyroid Hormones)
    • อยู่ในวัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง เป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เหงื่อออก จึงสังเกตเห็นได้ว่าผู้หญิงวัยทองมักมีอาการเหงื่อออกในเวลากลางคืน หรือมีอาการร้อนวูบวาบพร้อมกับเหงื่อออก

    ปริมาณเหงื่อแต่ละวันที่ถูกขับออกจากร่างกายจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน อาจมีปริมาณน้อยกว่า 1 ลิตรไปจนถึงหลายลิตร ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำในระหว่างวันและสภาพอากาศ เช่น พนักงานออฟฟิศในตึกที่ควบคุมอุณหภูมิให้เย็นสบายจะมีเหงื่อออกน้อยกว่าคนงานที่ทำงานข้างนอกตึกในสภาพอากาศร้อนจัด การออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง จะทำให้เหงื่อออกได้มากกว่าปกติ นอกจากนี้ ปริมาณเหงื่อยังขึ้นอยู่กับจำนวนต่อมเหงื่อในร่างกาย โดยผู้ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นจะเหงื่อออกได้ง่ายกว่าวัยอื่น เพราะเป็นช่วงที่ต่อมเหล่านี้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และต่อมเหงื่อของผู้ชายมักทำงานได้มากกว่าผู้หญิง

    อีกหนึ่งปัญหาที่ตามมาจากเหงื่อคงหนีไม่พ้นเรื่องของกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตัวการของกลิ่นไม่ได้มาจากเหงื่อโดยตรง แต่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังทำปฏิกิริยากับกรดในเหงื่อจนกลายเป็นกลิ่นตัว (Bromhidrosis) ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยหนุ่มสาว และผู้ชายก็มักมีกลิ่นตัวได้ง่ายกว่าสาวๆ เนื่องจากมีต่อมเหงื่อมากกว่า จึงทำให้ผลิตเหงื่อออกมามาก รวมถึงยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ง่าย เช่น น้ำหนักตัวมาก รับประทานอาหารรสจัดหรือแอลกอฮอล์ รับประทานยาบางชนิดอย่างยาต้านเศร้า (Antidepressants) หรือโรคบางโรค

    เหงื่อบ่งบอกสุขภาพได้อย่างไร

    ความเหนียวตัวและกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเหงื่อทำให้หลายคนรู้สึกหงุดหงิดจนพาลไม่อยากให้เหงื่อออก แต่หากเหงื่อไม่ออกเลย ออกเพียงช่วงกลางคืน หรือแม้แต่ออกมากเกินในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งก็อาจเป็นสัญญาณผิดปกติที่ควรระวัง เพราะมักเป็นปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ ซึ่งภาวะเหงื่อออกผิดปกติที่พบได้บ่อย ได้แก่

    • ภาวะขาดเหงื่อ (Anhidrosis)

    เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเหงื่อได้ตามปกติ จึงอาจทำให้ร่างกายสะสมความร้อนไว้สูงเกินไป ซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มีสาเหตุมาจากความร้อน เช่น ตะคริวแดด (Heat Cramp) อาการเพลียแดด (Heat Exhaustion) จากการโดนแดดหรือความร้อนเป็นเวลานานจนทำให้หมดแรง โรคลมแดด (Heat Stroke) และอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตเมื่อุณหภูมิในร่างกายสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส เพราะร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกไปพร้อมกับเหงื่อได้ทัน

    ภาวะขาดเหงื่อเกิดได้กับทุกส่วนของร่างกายหรือเกิดเป็นเฉพาะบางจุด โดยสาเหตุการเกิดมาจากหลายปัจจัย เช่น การได้รับบาดเจ็บบริเวณผิวหนังอย่างรุนแรง โรคหรือยาบางชนิด สภาวะบางอย่างที่ทำให้ระบบเส้นประสาทเสียหาย ภาวะขาดน้ำ หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมเหงื่อ ส่วนการรักษาต้องพิจารณาจากสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะนี้ เพื่อรักษาให้หายขาด

    • เหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis)

    ภาวะหลั่งเหงื่อมากเป็นภาวะที่ร่างกายผลิตเหงื่อออกมามากเกินความจำเป็น เนื่องจากกลไกการลดอุณหภูมิของร่างกายไวต่อการกระตุ้นและจำนวนต่อมเหงื่อมากกว่าปกติ ทำให้ผลิตเหงื่อออกมากกว่าคนปกติ 3-4 เท่า เช่น นั่งเฉย ๆ ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมากก็อาจทำให้เหงื่อท่วมตัว หรือในหน้าหนาวที่อากาศค่อนข้างเย็นกลับพบว่ามีเหงื่อออกมากเหมือนในหน้าร้อน

    สาเหตุของเหงื่อออกมากผิดปกติยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะเกิดได้จากหลายปัจจัย อาจมาจากการรับประทานยารักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคเบาหวานหรือโรคของต่อมไทรอยด์ เข้าสู่ช่วงวัยทอง รวมไปถึงการติดเชื้อ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคปอด

    เมื่อเหงื่อออกมากก็จะทำให้เกิดกลิ่นตามมา โดยเฉพาะจุดอับตามร่างกาย ผู้ที่เกิดภาวะหลั่งเหงื่อมากควรเริ่มต้นด้วยการดูแลความสะอาดของร่างกายตามคำแนะนำ ดังนี้

    • อาบน้ำเป็นประจำทุกวันหรืออาบบ่อยขึ้นในวันที่อากาศร้อน ซึ่งจะช่วยกำจัดแบคทีเรียตามผิวหนังและจุดซ่อนเร้นไม่ให้เพิ่มปริมาณมากขึ้น รวมไปถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย
    • รักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้น เพราะเป็นจุดอับที่เกิดกลิ่นได้ง่าย เช่น รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับ
    • ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหลังอาบน้ำ โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียม คลอไรด์ (Aluminium Chloride) ซึ่งจะช่วยลดการผลิตเหงื่อให้น้อยลง
    • เลือกสวมเสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เพราะมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนได้ดี ไม่ก่อให้เกิดความอับชื้นได้ง่าย
    • สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ทุกวัน เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
    • เลี่ยงรับประทานอาหารรสจัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัตว์เนื้อแดง ซึ่งกระตุ้นให้เหงื่อออกมากขึ้น

    หากการดูแลเบื้องต้นไม่ดีขึ้น การรักษาทางการแพทย์อาจใช้การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน(Botulinum Toxin) ในบริเวณที่มีต่อมเหงื่อเยอะ เช่น ใต้วงแขน แขน ขา หรือใบหน้า ซึ่งช่วยยับยั้งการส่งสัญญาณของสมองไปยังต่อมเหงื่อให้ผลิตเหงื่อน้อยลง

    ในกรณีที่เกิดกลิ่นตัวอย่างรุนแรงมากจนไม่สามารถบรรเทากลิ่นให้น้อยลงด้วยวิธีการอื่น แพทย์อาจรักษาด้วยการผ่าตัดกำจัดต่อมเหงื่อบางส่วนออก ซึ่งมีอยู่หลากหลายวิธีที่นิยมใช้ เช่น การผ่าตัดนำเนื้อเยื่อหรือผิวหนังใต้วงแขนบางส่วนออก การดูดต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังออกโดยใช้เทคนิคเดียวกับการดูดไขมัน (Liposuction) การผ่าตัดผ่านรูกุญแจ (Keyhole Surgery) ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Endoscopic Thoracic Sympathectomy (ETS) เพื่อทำลายเส้นประสาทที่ควบคุมต่อมการผลิตเหงื่อ

    • เหงื่อออกกลางคืน (Night Sweat)

    เป็นภาวะที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติเฉพาะช่วงกลางคืน โดยไม่มีปัจจัยอื่นกระตุ้นให้เหงื่อออกและอุณหภูมิของห้องเป็นปกติ บางครั้งอาจมีเหงื่อออกมากจนที่นอนเปียกชื้น ภาวะนี้ในบางครั้งอาจวินิจฉัยได้ยาก เพราะบางคนเหงื่อออกจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อุณหภูมิในห้องนอนสูงเกินไป ชุดเครื่องนอนหนามาก หรือบนเตียงมีหมอนเยอะหลายใบจนทำให้รู้สึกร้อน แพทย์จึงต้องแยกสาเหตุทั่วไปและทางการแพทย์ออกจากกัน

    สาเหตุการเกิดอาจมาได้จากหลายส่วน ภาวะนี้มักพบได้บ่อยในผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยทอง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งจะเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ ของวัยทอง เช่น ช่องคลอดแห้ง รู้สึกร้อนวูบวาบในช่วงกลางวัน อารมณ์แปรปรวน ส่วนสาเหตุอื่นๆ เกิดได้จากการรับประทานยาบางชนิด ความผิดปกติของฮอร์โมน ไข้ขึ้น แต่ในบางรายก็เป็นผลมาจากการติดเชื้อหรือโรคมะเร็ง แต่พบได้ค่อนข้างน้อย ในการวินิจฉัยจึงต้องใช้ข้อมูลหลายส่วนประกอบกัน

    อาการเหงื่อออกเป็นกลไกธรรมชาติที่ช่วยลดความร้อนภายในร่างกายและเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพบางส่วนจากระบบทำงานของร่างกายที่ผิดเพี้ยนไป แต่หากขาดการดูแลและรักษาความสะอาดอย่างเหมาะสมย่อมจะเกิดผลเสียตามมา จึงควรหมั่นสังเกตว่าเหงื่อที่ออกในชีวิตประจำวันเป็นปกติหรือพ่วงความผิดปกติใดมาหรือไม่ เช่น เจ็บหน้าอก ไข้ขึ้น หัวใจเต้นเร็วและถี่ หายใจสั้น น้ำหนักลง เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังเผชิญกับการติดเชื้อหรือโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ที่ซ่อนอยู่ อย่างไรก็ตาม ควรไปพบแพทย์เมื่อมีเหงื่อออกในลักษณะต่อไปนี้

    • เหงื่อออกมากหรือออกเป็นระยะเวลานานโดยหาสาเหตุไม่ได้
    • มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกหรือความดันโลหิตเกิดขึ้นพร้อมกับเหงื่อออก หรืออาจเกิดตามมา
    • เหงื่อออกบ่อยๆ ในช่วงกลางคืนหรือเหงื่อออกมากจนน้ำหนักลด

    เหงื่อออก

    เหงื่อมากผิดปกติ มีวิธีรักษาและดูแลตัวเองอย่างไร

    การักษาโรคเหงื่อออกมากผิดปกติ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นอาการเข้ากับกลุ่มไหน ถ้าสงสัยว่าเป็น Secondary Hyperhidrosis (กลุ่มที่มีสาเหตุจากภาวะความผิดปกติในร่างกาย) ก็ต้องไปหาว่าเป็นโรคอะไร และรักษาโรคนั้น อาการเหงื่อออกมากผิดปกติก็จะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ถ้าอาการเข้าได้กับ Primary focal hyperhidrosis และหาสาเหตุไม่ได้ ก็จะรักษาโดยการลดปริมาณเหงื่อที่ออกในบริเวณนั้นๆ ซึ่งทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

    1.ทายา ที่มีส่วนผสมของอลูมิเนียมคลอไรด์ (Antiperspirants)

    หรือสารระงับเหงื่อ ออกฤทธิ์ทำให้โปรตีนในผิวหนังเกิดการตกตะกอน เมื่อสารนี้ซึมเข้าไปสู่รูต่อมเหงื่อ เกลืออลูมิเนียมจะเข้าเกาะติดในรูต่อมเหงื่อจนทำให้รูอุดตัน และปิดกั้นทางออกของเหงื่อไว้ สามารถทาได้ทั้งบริเวณ ไรผม รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า โดยต้องทายาก่อนนอนในบริเวณที่เหงื่อออกมากแล้วล้างออกตอนเช้า ยาอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในบริเวณที่ใช้ได้

    2.การฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซินชนิดเอ (botulinum toxin type A)

    บริเวณรักแร้ หรือฝ่ามือ ฝ่าเท้า เพื่อกดการทำงานของเส้นประสาทที่ควบคุมการหลั่งเหงื่อ ก่อนฉีดก็จะมีการทายาชาและประคบน้ำแข็ง โดยอาจจะมีการทดสอบก่อน (Starch-Iodine Test) เพื่อดูบริเวณที่เหงื่อออก จะได้ฉีดให้ครอบคลุมทั่วบริเวณ ซึ่งฤทธิ์ของโบทูลินั่มท็อกซินจะอยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน เมื่อหมดฤทธิ์เหงื่อก็จะกลับมาออกตามปกติ

    3.MiraDry

    คือ เทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ช่วยในการแก้ไขปัญหาเหงื่อ และกลิ่นตัวบริเวณใต้วงแขน โดยการใช้พลังงานคลื่นไมโครเวฟ ส่งพลังงานความร้อนลงไปทำลายต่อมเหงื่อบริเวณรักแร้ สามารถแก้ไขปัญหาได้ถาวร โดยไม่จำเป็นต้องทำซ้ำหลายครั้ง และยังมีความปลอดภัยสูง โดยเป็นเครื่องเดียวในปัจจุบัน ที่ได้รับรับรองจาก FDA ในการรักษาโรคนี้

    4.การรักษาด้วยไอออนโตฟอรีซีส (Iontophoresis)

    เป็นวิธีที่ใช้กระแสไฟฟ้าพลังงานต่ำช่วยส่งผ่านน้ำหรือยาเข้าสู่ผิวหนังบริเวณต่อมเหงื่อ บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ส่งผลให้ต่อมเหงื่อบริเวณนั้นทำงานลดลง อาจต้องเข้ารับการรักษาประมาณ 6-10 ครั้งจึงจะเห็นผล และอาจต้องทำซ้ำทุกเดือนเพื่อให้ได้ผลอย่างต่อเนื่อง

    5.การผ่าตัด มีทั้งการผ่าตัดเอาต่อมเหงื่อออก (remove sweat glands)

    การกำจัดปมประสาทอัตโนมัติ (Sympathectomy) โดยการทำลายปมประสาทบางส่วนที่ส่งสัญญาณมาบริเวณใบหน้า ฝ่ามือ หรือรักแร้ ส่งผลให้ไม่มีการหลั่งเหงื่อเกิดขึ้นที่บริเวณนั้นๆ

    การดูแลตนเองสำหรับผู้ที่เป็นโรคเหงื่อออกเยอะผิดปกติ

    1. ควรสวมเสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่นจนเกินไป ใส่สบาย ระบายเหงื่อได้ดี
    2. อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือมากกว่าตามความสะดวก
    3. รักษาเท้าให้แห้งเสมอ เพื่อป้องกันการเป็นเชื้อรา
    4. สวมรองเท้าที่สะอาดและแห้งอยู่เสมอ และมีรองเท้าสำรอง ใส่สลับสับเปลี่ยนทุกวัน เพื่อลดการสะสมเชื้อแบคทีเรีย
    5. เลือกรับประทานอาหารชนิดที่ไม่เพิ่มการหลั่งเหงื่อเช่น อาหารรสเผ็ดจัด และอาหารที่ไม่เพิ่มกลิ่นทางเหงื่อ เช่น กระเทียม หัวหอม ต้นหอม
    6. ควบคุมอาการ ออกกำลังกาย เพื่อควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้น้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน

    ที่มา

     

    ติดตามอ่านเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่  ufabet1995.com

    สนับสนุนโดย  ufabet369

Economy

  • หุ้นจีน วันนี้ ได้เวลาลงทุนอีกครั้งหรือยัง
    หุ้นจีน วันนี้ ได้เวลาลงทุนอีกครั้งหรือยัง

    ย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว กูรูการลงทุนหลายสำนักมองว่าในปีนี้ตลาด หุ้นจีน จะเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจที่สุด หลังรัฐบาลยกเลิกมาตรการ Zero-COVID เปิดประเทศ ผ่านมาแล้วครึ่งปี แต่ แนวโน้มหุ้นจีนวันนี้ กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้ แต่แล้วหลังนายกฯ จีนพบปะกับผู้บริหารบริษัทเทคฯ จีนนับเป็นการส่งสัญญาณว่าการควบคุมบริษัทเทคฯ จีนได้จบลงแล้ว

    ด้านตลาดหุ้นจีนเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังทำให้นักลงทุนกังวลมาก พี่ทุยเลยจะขอพานักลงทุนทุกคนไปดูกันหน่อยว่าทำไมเวลานี้ถึงเป็นเวลาที่เหมาะสมกับการลงทุนหุ้นจีน ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย!!!

    หุ้นจีน 1

    ย้อนรอย Ant Group ถูกระงับ IPO ลามควบคุมไปถึงวงการเรียนออนไลน์

    Ant Group ว่าที่หุ้น IPO ใหญ่ที่สุดในโลกถูกรัฐบาลจีนสั่งระงับการเข้า IPO จากนั้นก็ตามด้วยนโยบายต่อต้านการผูกขาดซึ่งสร้างผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Alibaba, Tencent และ Meituan ทั้งควบคุมทิศทางการดำเนินธุรกิจและสั่งปรับเงิน

    นโยบายนี้ยังลามไปถึงบริษัทติวเตอร์ออนไลน์ โดยรัฐบาลจีนสั่งให้บริษัทต้องจดทะเบียนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และยังห้ามเพิ่มเงินทุนทั้งจากช่องทางตลาดหุ้นและนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลกระทบหนักต่อบริษัทอย่าง TAL Education และ Gaotu Techedu ซึ่งต่างเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้นจีน

    จากนั้นทางการจีนก็ควบคุมธุรกิจอสังหาฯ ด้วยการกำหนดว่าต้องสร้างโครงการที่เริ่มไว้ให้เสร็จก่อนจึงจะสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินมาสร้างโครงการอื่นได้ ส่งผลให้ Evergrande เกิดปัญหาสภาพคล่อง โครงการที่เริ่มไว้ก็สร้างไม่เสร็จ โครงการใหม่ก็เริ่มไม่ได้ ราคาอสังหาฯ ก็ลดหวบ กระทบประชาชน เพราะชาวจีนชอบเก็บเงินไว้ในรูปอสังหาฯ

    เปิดประเทศแล้ว แต่ตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่น่าพอใจ

    หลังเปิดประเทศ ทุกฝ่ายคาดว่าจะเห็นตัวเลขเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างโดดเด่น แม้ GDP ไตรมาสแรกปี 2023 จะเติบโต 4.5% แต่หลังจากนั้นไตรมาส 2 เลข GDP ก็โตแค่ 6.3% ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นก็น่าผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนสินทรัพย์คงทน +3.8%, ค้าปลีก +3.1%, การส่งออก –12.4% จากปีที่แล้ว ทั้งหมดออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ทั้งสิ้น

    ส่วนดัชนี PMI ที่ช่วยบอกสภาพเศรษฐกิจในอนาคตก็ยังไม่น่าประทับใจ โดยภาคอุตสาหกรรมโดนผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ดัชนี PMI เคลื่อนไหวสลับกันระหว่างแดนขยายตัวและหดตัว ด้านดัชนี PMI ภาคบริการที่สะท้อนการบริโภคภายในประเทศ พุ่งขึ้นไปในแดนขยายตัวหลังเปิดประเทศ แต่ก็เริ่มลดลงต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่สัญญาณที่ดีมากนัก

    ธนาคารกลางจีนนำร่องลดดอกเบี้ย ภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุม

    ธนาคารกลางจีน (PBOC) เริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมอายุ 1 ปี และ 5 ปี ลง 0.1% นับเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือน ส.ค. ปี 2022 นอกจากนี้ยังลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสำหรับการกู้ยืมระหว่างธนาคารพาณิชย์ พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ

    ด้านรัฐบาลขยายมาตรการช่วยเหลือด้านสภาพคล่องในภาคอสังหาฯ ไปจนถึงปลายปี ผ่อนคลายแรงกดดันระยะสั้นไปได้ ส่วนบริษัทเทคฯ ก็มีสัญญาณดี หลัง Ant Group ถูกสั่งปรับน้อยกว่าคาด ซึ่งนักลงทุนต่างมองว่ามาตรการควบคุมบริษัทเทคฯ ที่ลากยาวมากว่า 3 ปี ได้จบลงแล้ว ซึ่งยืนยันด้วยการที่นายกฯ จีนได้พบกับผู้บริหารบริษัทเทคฯ จีน พร้อมเรียกร้องให้บริษัทเหล่านี้สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจมากขึ้น

    แนวโน้ม หุ้นจีน วันนี้: เหลืออะไรบ้างที่จะเอามาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจจีนได้อีก?

    เหล่านี้คือ มุมมองจากนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ เริ่มจากรัฐบาลต้องใช้นโยบายขาดดุลการคลังมากขึ้น ด้วยการกู้ยืมผ่านหุ้นกู้รัฐบาลท้องถิ่น แต่รัฐบาลท้องถิ่นก็เผชิญปัญหาแบกหนี้มากเกินไปจากหุ้นกู้ที่เคยออกไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นธนาคารกลางจีนต้องเข้ามามีบทบาทด้วยการรับซื้อหุ้นกู้จากรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อกระจายสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

    นอกจากนี้รัฐบาลต้องลดภาษีเพื่อให้ประชาชนมีเงินเหลือมากขึ้น หรือรัฐบาลอาจเลือกใช้นโยบายอัดฉีดเงินเข้ากระเป๋าประชาชนโดยตรงด้วยคูปองใช้จ่ายหรือให้เงินอุดหนุนการใช้จ่าย ไม่ว่าจะใช้นโยบายใดก็ตาม ต้องประเมินไปพร้อมกับการขาดดุลการคลังด้วยว่ามีช่องว่างเหลือให้ลดภาษีได้แค่ไหน

    ขณะที่ธนาคารกลางจีนยังมีอุปกรณ์ในมือเพียงพอกระตุ้นแน่นอน โดยอาจเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยต่อ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าหากลดอัตราดอกเบี้ย 1% จะมีเงินเข้าระบบการเงินมากกว่ากำไรที่บริษัทภาคอุตสาหกรรมทำได้ตลอด 5 เดือนแรกของปี

    อีกอุปกรณ์ คือ การลดอัตราสำรองเงินของธนาคารพาณิชย์ (Required Reserve Ratio) โดยถ้ามีการปรับลดก็จะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์มีเงินไปปล่อยสินเชื่อเข้าเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งธนาคารกลางจีนปรับลดครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2023

    ปลายเดือน มิ.ย. 2023 ธนาคารกลางจีนเพิ่มโควต้าสำหรับโปรแกรมสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษให้เกษตรกรและบริษัทขนาดเล็ก นี่อาจเป็นสัญญาณแรกของการปรับลด Required Reserve Ratio

    แนวโน้ม หุ้นจีน วันนี้: กลุ่มที่ได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ

    กลุ่มเทคโนโลยีแม้จะไม่ได้รับผลดีโดยตรง แต่ด้วยแรงกดดันจากมาตรการควบคุมที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ก็พร้อมฟื้นตัวโดดเด่นทันทีที่รัฐบาลจีนส่งสัญญาณหยุดมาตรการควบคุม

    ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์และอสังหาฯ รับผลดีจากปัญหาสภาพคล่องที่ผ่อนคลายในระยะสั้น ด้านกลุ่มบริโภคภายในจะรับผลดีจากมาตรการกระตุ้นโดยตรงจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

    ซึ่งเพียง 4 กลุ่มอุตสาหกรรมนี้ก็สามารถช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นได้แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นที่ทางการจีนจะนำมาใช้เมื่อไรเท่านั้นเอง


    ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
    Zelda: TOTK วิธีการป้องกัน ที่สมบูรณ์แบบลดดาเมจ
    ไอเดีย สีทาห้องนอน
    เหงื่อออก บ่งบอกสุขภาพได้
    4ไอเทมสำหรับการแต่งตัวรับหน้าร้อน
    ติดตามข่าวอื่นๆได้ที่ https://www.ufabet1995.com/
    สนับสนุนโดย  ufabet369
    ที่มา www.moneybuffalo.in.th